บันทึกการเรียน ครั้งที่ 10
วันพุธ ที่ 29 มีนาคม 2560
เวลา 8.30 - 12.30 น.
ความรู้ที่ได้รับ
โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized Education Program)
•แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น
•เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา
•ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
•โดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก
(Individualized Education Program)
•แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น
•เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา
•ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
•โดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก
การเขียนแผน IEP
•คัดแยกเด็กพิเศษ
•ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร
•ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะทำให้ทราบว่าจะต้องเริ่มช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ในทักษะใด
•เด็กสามารถทำอะไรได้ / เด็กไม่สามารถทำอะไรได้
•แล้วจึงเริ่มเขียนแผน IEP
IEP ประกอบด้วย
•ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก
•ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
•การระบุความสามารถของเด็กในขณะปัจจุบัน
•เป้าหมายระยะยาวประจำปี / ระยะสั้น
•ระบุวัน เดือน ปี ที่เริ่มทำการสอน และคาดคะเนการสิ้นสุดของแผน
•วิธีการประเมินผล
ประโยชน์ต่อเด็ก
•ได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน
•ได้มีโอกาสพัฒนาตามศักยภาพของตน
•ได้รับการศึกษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
•ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ
ประโยชน์ต่อครู
•เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
•เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะกับเด็ก
•ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
•เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็ก
•ตรวจสอบและประเมินได้เป็นระยะ
ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
•ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคล เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตามศักยภาพ
•ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนอย่างไร
•เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิดระหว่างบ้านกับโรงเรียน
ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล
1. การรวบรวมข้อมูล
•รายงานทางการแพทย์
•รายงานการประเมินด้านต่างๆ
•บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง
2. การจัดทำแผน
•ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
•กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น
•กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
•จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดมุ่งหมาย
จุดมุ่งหมายระยะยาว
1. การรวบรวมข้อมูล
•รายงานทางการแพทย์
•รายงานการประเมินด้านต่างๆ
•บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง
2. การจัดทำแผน
•ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
•กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น
•กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
•จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดมุ่งหมาย
จุดมุ่งหมายระยะยาว
•กำหนดให้ชัดเจน แม้จะกว้าง
–น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้
–น้องดาวร่วมมือกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
–น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้
จุดมุ่งหมายระยะสั้น
–น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้
–น้องดาวร่วมมือกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
–น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้
จุดมุ่งหมายระยะสั้น
•ตั้งให้อยู่ภายใต้จุดมุ่งหมายหลัก
•เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์•จะสอนใคร
•พฤติกรรมอะไร
•เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
•พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน
•เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์•จะสอนใคร
•พฤติกรรมอะไร
•เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
•พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน
3. การใช้แผน
•เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
•นำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
•แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
•จัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน§ต้องมีการสังเกตเก็บ
•เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
•นำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
•แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
•จัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน§ต้องมีการสังเกตเก็บ
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามารถ โดยคำนึงถึง
1.ขั้นตอนพัฒนาการของเด็กปกติ
2.ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
3.อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
2.ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
3.อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
4. การประเมินผล
•โดยทั่วไปจะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
•ควรมีการกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์วัดผล
** การประเมินในแต่ละทักษะหรือแต่ละกิจกรรม
อาจใช้วิธีวัดและกำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน**
กิจกรรมในวันนี้คือ อาจารย์ให้วาดรูปลายมือของตัวเองว่าเป็นอย่างไร เเล้วนำไปใหเพื่อตามหาลายมือว่าเป็นลายมือของใคร
ลายมือของดิฉัน
ลายมือของเพื่อนที่จะต้องตามหา ซึ่งดิฉันได้ตามหาเจอนั้นก็คือลายมือของ แอ๋ม
กิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นว่า คนเป็นครูควรที่จะจดบันทึกไว้เมื่อสังเกตพฤติกรรมเด็ก เพราะว่าในวันหน้าเราอาจจะลืมพฤติกรรมนั้น
กิจกรรมที่ 2 คือวงกลมหลายสี อาจารย์ให้ใช้สีเทียนสีอะไรก็ได้เเล้ววาดเป็นวงกลมเล็กหรือใหญ่ก็ได้ หลังจากนั้นก็ดูว่าเเต่ละสีมีความหมายว่าอย่างไร
หลังจากนั้นนำวงกลมของเเต่ละคนมารวมติดรวมกันเเล้วดูภาพรวมว่ากลุ่มเรียนนี้มีลูกษณะเป็นอย่างไร
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำเทคนิคต่างๆที่อาจารย์สอนไปใช้กับเด็กพิเศษได้จริง
ประเมินตนเอง
- ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินเพื่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น